โรคเหี่ยวเขียว
ต้นพริกที่เป็นโรคนี้จะแสดงอาการเหี่ยวทั้งต้นในวันที่อากาศร้อนจัด แล้วจะเหี่ยวตายไปในที่สุด การเหี่ยวของต้นพริกที่เป็นโรคนี้จะไม่แสดงอาการใบล่างเหลือง แต่พอมีอาการโรคเหี่ยวให้เห็น โรคนี้เกิดจากการเข้าทำลายของแบคทีเรียชื่อ ชูโคโมแนว โซลานาซีรัม เข้าสู่พืชได้ง่ายทางรอยแผล
โรคเหี่ยวเขียว : BACTERIAL WILT DISEASE
พบระบาดมากในเขตร้อนที่อุณหภูมิประมาณ 30-35 องศาเซลเซียส และความชื้น ในดินสูง มีพืชอาศัยกว้าง เชื้อสามารถอยู่ในดินได้นาน เข้าทำลายพืชทางรากโดยเข้าตามบาดแผลหรือช่องเปิด ตามธรรมชาติ สามารถแพร่ระบาดไปกับน้ำได้ดีและติดไปกับส่วนขยายพันธุ์
อาการของโรคพบกระจายหรือเป็นกลุ่มในแปลงปลูก เริ่มแรกใบยอดเหี่ยวเฉพาะเวลา กลางวันที่อากาศร้อนจัดและในเวลาค่ำที่อากาศเย็น ใบเหี่ยวเพิ่มมากลามลงมาจนเหี่ยวทั้งต้น โดยที่ใบยังคง เขียวอยู่ ระบบรากถูกทำลายเป็นสีน้ำตาล และถ้าตัดลำต้นออกตามขวางแช่ในน้ำใสภายใน 5-10 นาที พบเมือก สีขาวขุ่น (bacterial ooze) ไหลออกมาตามรอยตัดเป็นสายละลายปนกับน้ำออกมา เมื่อเป็นโรคมากภายใน ลำต้นจะกลวงเนื่องจากถูกเชื้อทำลายเนื้อเยื่อและตายในที่สุด
เชื้อสาเหตุสามารถอยู่ข้ามฤดูได้ในดินและเศษซากพืช ตลอดจนวัชพืชบางชนิดที่เป็น พืชอาศัย เมื่อมีการปลูกพริกเชื้อสาเหตุที่อยู่ในดินสามารถเข้าทำลายทางราก โดยเข้าตามบาดแผลที่เกิดจาก การเพาะปลูก จากแมลงหรือไส้เดือนฝอยเปิดแผลและช่องเปิดตามธรรมชาติ
ต้นพริกที่เป็นโรคนี้จะแสดงอาการเหี่ยวทั้งต้นในวันที่อากาศร้อนจัด แล้วจะเหี่ยวตายไปในที่สุด การเหี่ยวของต้นพริกที่เป็นโรคนี้จะไม่แสดงอาการใบล่างเหลือง แต่พอมีอาการโรคเหี่ยวให้เห็น
1. ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีการระบาดของโรคนี้มาก่อนหรือใช้พันธุ์ต้านทานโรคเหี่ยวเขียว และ ในพื้นที่ที่เกิดโรคระบาดควรปลูกพืชหมุนเวียนที่ไม่ใช่พืชอาศัยของเชื้อสาเหตุโรค เช่น ข้าวโพด ข้าว ฝ้าย ถั่วเหลือง สลับกันเป็นเวลามากกว่า 1 ปี
2. ฆ่าเชื้อสาเหตุในดินปลูกโดยการอบดินฆ่าเชื้อด้วยยูเรีย อัตรา 80 กิโลกรัม และปูนขาวอัตรา 800 กิโลกรัมต่อพื้นที่ 1 ไร่ โดยอบทิ้งไว้ 2-3 สัปดาห์ก่อนปลูกพืช
3. เครื่องมือเครื่องใช้ควรจุ่มแอลกอฮอล์ 70% หรือคลอร็อกซ์ 10% ทุกครั้งที่ใช้เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อ แพร่กระจาย
4. หมั่นตรวจและสังเกตแปลงปลูกเสมอ เมื่อพบต้นที่แสดงอาการของโรคให้ขุดออกนำไปเผาทำลาย ขุดดินบริเวณรอบต้นนำไปฝังทำลาย โรยปูนขาวบริเวณหลุมที่ขุดออกเพื่อลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค
5. ทำลายเชื้ออาศัยอื่นๆ หรือวัชพืช เพื่อไม่ให้เป็นพืชที่อาศัยข้ามฤดู และ ปรับระบบการใช้น้ำ ควบคุมความชื้นในดินไม่ให้มากเกินไป เพื่อลดความรุนแรงของโรค
วัคซีนพืช ซุปเปอร์ไบโอฟิต โปรตีนดิน ป้องกันโรคพืช ชีวภาพ
ปัญหาโรคพืช ปัญหาสภาพของดิน ที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการปลูกพืชของคุณ ไม่ว่าจะปลูกไว้ในครัวเรือน หรือ ภาคการเกษตร สิ่งสำคัญต้องห่างไกลสารเคมี และ ศัตรูพืชที่ทำลายพืชทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหารและขาดทุนจากผลผลิตที่ลดลงเราช่วยพืชและดินของคุณได้
