โรครากปม ต้นไม่ตายแต่ว่าไม่โต
โรครากปม…เกษตรกรผู้ปลูกผักบางราย พบว่าพืชผักที่ปลูกไม่ค่อยเติบโตเท่าที่ควร เช่น ผักกาดหวาน พอถอนต้นจะเห็นที่รากเป็นปม ๆ ซึ่งอาการแบบนี้เป็นลักษณะผิดปกติที่เกิดจากไส้เดือนฝอยศัตรูพืช เป็นสัตว์ขนาดเล็ก รูปร่างคล้ายเส้นด้าย มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ดำรงชีวิตในดินและเข้าทำลายรากพืช ทำให้พืชเกิดอาการรากปม รากแผล รากกุด รากเน่า เป็นต้น โดยทำให้พืชแสดงอาการแคระแกรน โตช้า ใบเหลือง เหี่ยว ผลผลิตได้รับความเสียหาย เนื่องจากระบบรากถูกทำลาย ทำให้เกิดปุ่มปมจำนวนมากที่รากพืช
วิธีสังเกต “รากปม” มี 2 ลักษณะ คือ
1.รากปมที่เกิดจากการเข้าทำลายของไส้เดือนฝอยศัตรูพืช
2.รากปมของพืชตระกูลถั่ว
- รากปมที่เกิดจากการเข้าทำลายของไส้เดือนฝอยศัตรูพืช จะเป็นลักษณะเหมือนรากบวมป่องขึ้นมา เนื่องจากไส้เดือนฝอยระยะเข้าทำลายจะใช้อวัยวะที่เรียกว่า stylet แทงเข้ารากพืชและปล่อยเอนไซม์เพื่อทำลายเซลล์รากให้อ่อนนุ่ม จากนั้นตัวอ่อนไส้เดือนฝอยจะเข้าไปในรากพืชและดูดสารอาหารจากพืช ทำให้พืชเกิดอาการรากปม
- รากของพืชตระกูลถั่ว จะเป็นปมที่เหมือนมีก้อนค่อนข้างกลม มาแปะติดไว้กับราก สามารถเด็ดออกจากรากได้ ที่ปมของรากจะมีเชื้อไรโซเบียมที่สามารถตรึงไนโตรเจนจากอากาศมาเก็บไว้ในปมรากถั่วและสะสมในต้นพืช จึงนิยมนำพืชตระกูลถั่วมาปลูกเป็นพืชปุ๋ยสดเพื่อช่วยปรับปรุงบำรุงดิน ในการปลูกพืชอินทรีย์ การปลูกพืชตระกูลถั่วสลับหมุนเวียนไปกับพืชอื่น จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการปรับปรุงบำรุงดินได้เป็นอย่างดี
อาการโรครากปม
ไส้เดือนฝอยที่สร้างความเสียหายให้แก่ผลผลิตในประเทศไทยมากที่สุด ทำให้ผลผลิตลดลงร้อยละ 38.1-57.6 โดยไส้เดือนฝอยเข้าทำลายระบบราก ทำให้พืชดูดซึมแร่ธาตุอาหารได้ลดน้อยลง แคระแกร็นและอ่อนแอต่อสภาพฝนแล้ง การงอกของต้นอ่อนช้า ขนาดของต้นอ่อน จำนวนกอ ความยาวปล้อง รวมทั้งการสะสมน้ำตาลของผลผลิตลดน้อยลง ทั้งนี้ก็ทำให้ผลผลิตเกิดอาการที่แสดงออกมา คือ ใบจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รากจะแย่งอาหารจากพืช ระบบรากของปุ่มปม สาเหตุมาจากไส้เดือนฝอยจะดูดกินน้ำเลี้ยงของพืชบริเวณท่อน้ำและท่ออาหาร ทำให้เซลล์ของพืชแบ่งตัวผิดปกติ เกิดเป็นปม รากที่ถูกไส้เดือนฝอยเข้าทำลายจะเสียหาย และไม่สะสมแป้ง ผลผลิตลดลงไส้เดือนฝอยแพร่ระบาดได้ดีในดินที่มีความชื้น และเนื้อดินร่วนปนทราย โดยการแพร่ระบาดของโรครากปมในพริกนั้นจะสามารถแพร่กระจายได้ด้วยตัวกลางที่หลากหลาย เช่น ดิน น้ำ พืช เป็นต้น
วิธีป้องกันกำจัด
1. อบดินโดยการคลุมด้วยพลาสติก แล้วอบให้เกิดความร้อน หรือใช้ฟางข้าวหรือแกลบคลุมแปลงและเผาเพื่อให้ความร้อนทำลายไข่และตัวอ่อนของไส้เดือนฝอย (ไส้เดือนฝอยกลัวความร้อน! …จะตายเมื่อดินมีอุณหภูมิสูงกว่า 50 องศาเซลเซียส) และพักแปลงประมาณ 1 สัปดาห์
2. ปลูกพืชสลับ เช่น ดาวเรือง ถั่วลิสง หรือปอเทือง เพื่อลดประชากรของไส้เดือนฝอยในดิน และปอเทืองยังเป็นพืชบำรุงดินด้วย
3. ก่อนปลูกพืชครั้งต่อไป รองก้นหลุมปลูกหรือคลุกดินด้วยเชื้อราเพซิโลมัยซิส (อัตราที่ใช้ตามคำแนะนำบนฉลาก) หรือใช้วิธีผสมน้ำแล้วนำไปราดหรือพ่นลงดินให้ทั่วแปลง ทุกๆ 7 วัน ประมาณ 2-3 ครั้งติดต่อกัน
ดังนั้น การปลูกพืชหลากหลายชนิดทั้งปลูกแบบสลับหรือหมุนเวียน จะช่วยลดการระบาดของโรค-แมลง เพราะโรค-แมลงแต่ละชนิดก็จะเข้าทำลายหรือระบาดรุนแรงแตกต่างกันไปตามชนิดพืชด้วย
👉🏻 สนใจสินค้าทางการเกษตรติดต่อสอบถามและสั่งซื้อได้ที่ สองแสงจันทร์ ปุ๋ย ยา ราคาส่ง