สับปะรด ปลูกหน้าฝนให้ได้ผลผลิตดี

สับปะรด

สับปะรด นับเป็นผลไม้ส่งออกที่สำคัญอีกชนิดหนึ่งของประเทศไทย เพราะนอกจากจะนำไปแปรรูปเป็นสินค้าส่งออก ยังนิยมรับประทานผลสดได้อีกด้วย

การเพาะปลูกสับปะรดในประเทศไทยสามารถทำได้ตลอดทั้งปีหากมีแหล่งน้ำเพียงพอ สำหรับพื้นที่ที่มีแหล่งน้ำไม่เพียงพอ การเพาะปลูกจึงต้องทำในช่วงฤดูฝน ซึ่งเป็นช่วงที่เสี่ยงต่อการเกิดโรคเน่าต่าง ๆ ได้

วันนี้ขอแนะนำเทคนิคปลูกสับปะรดในช่วงฤดูฝน ให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวไร่สับปะรดที่ยังไม่ได้เพาะปลูกหรือกำลังเตรียมการเพาะปลูกไว้เป็นแนวทางในการดำเนินการครับ มาดูกันว่ามีปัจจัยหลักอะไรบ้าง

  1. เลือกที่ปลูกที่มีแสงแดดเพียงพอ:
    • สับปะรดต้องการแสงแดดมากเพื่อการสร้างพลังงานในกระบวนการฟอโตสินธร ดังนั้นเลือกที่ปลูกที่ได้รับแสงแดดเพียงพอ 6-8 ชั่วโมงต่อวัน.
  2. เลือกที่ดินที่มีการระบายน้ำดี:
    • สับปะรดไม่ชอบน้ำขัง ดินที่มีการระบายน้ำดีจะช่วยลดโอกาสเกิดโรครากเน่าโคนเน่า.
  3. การให้น้ำเพียงพอ:
    • การให้น้ำในปริมาณที่เหมาะสมจะช่วยให้สับปะรดเจริญเติบโตได้ดี. การให้น้ำมากเกินไปอาจทำให้เกิดโรครากเน่า.
  4. การใส่ปุ๋ย:
    • ใส่ปุ๋ยที่มีส่วนผสมของธาตุอาหารที่สำคัญ เช่น ไนโตรเจน (N), ฟอสฟอรัส (P), และ โพแทสเซียม (K) ที่เหมาะสม. ควรใส่ปุ๋ยอย่างน้อยทุก 2-3 เดือน.
  5. การป้องกันกำจัดศัตรูพืช:
    • ตรวจสอบและดูแลรักษาต้นสับปะรดจากศัตรูพืชเช่น เพลี้ยไฟ, เพลี้ยแป้ง, หนอน, และโรครา.
  6. การเลี้ยงต้นอ่อนให้เต็มที่:
    • เมื่อต้นสับปะรดมีใบและเริ่มแข็งแรง ควรเลี้ยงต้นอ่อนที่สมบูรณ์แข็งแรงที่สุดมาปลูก.
  7. การเฝ้าระวังจากสภาพอากาศ:
    • ถ้ามีฝนตกหนัก อาจต้องระวังการน้ำท่วมทำให้รากเน่าได้.
  8. การปรับปรุงดิน:
    • ตรวจสอบความเป็นกรด-ด่างของดินและปรับปรุงดินให้เหมาะสมถ้าจำเป็น.
  9. การตัดแต่ง:
    • การตัดแต่งใบที่เหี่ยวหรือที่สึกกร่อนจะช่วยให้พืชใช้พลังงานได้มากขึ้น.
  10. การให้ความร่มเย็น:
    • การให้ความร่มเย็นในช่วงที่มีแดดจัดมากๆ อาจช่วยลดการแห้งจากแดดที่มากเกินไป.

ทำตามเทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้สับปะรดเจริญเติบโตได้ดีในช่วงฝนครับ

ปัญหาที่มักพบบ่อย

  1. โรคและแมลง:
    • สัปปะรดอาจถูกทำลายโดยโรคหรือแมลง เช่น โรคราน้ำค้าง, เพลี้ยไฟ, หนอนเจาะลำต้น เป็นต้น.
  2. ขาดน้ำหรือน้ำมาก:
    • ขาดน้ำสามารถทำให้ลำต้นและผลเล็ก, ในขณะที่น้ำมากอาจทำให้รากเน่า.
  3. ปัญหาดิน:
    • ดินที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้รากไม่สามารถดูดน้ำและสารอาหารได้เพียงพอ.
  4. สภาพอากาศ:
    • สัปปะรดอาจไม่เจริญเติบโตดีในสภาพอากาศที่หนาวหรือฝนตกมาก.
  5. การจัดการที่ไม่ถูกต้อง:
    • การให้ปุ๋ยมากเกินไปหรือไม่ถูกสัดส่วน, การตัดแต่งไม่ถูกต้อง, หรือการจัดการที่ไม่ถูกต้องอื่นๆ สามารถส่งผลให้สัปปะรดไม่เจริญเติบโต.

การปลูกสัปปะรดต้องให้ความสำคัญกับการดูแลและการจัดการปัญหาที่อาจเกิดขึ้นเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดีและมีคุณภาพ

เลือกตัวช่วยบำรุงพืชให้เขียวและแข็งแรง อย่าง ” ฟูกรีน “

ตัวเพิ่มพลังงานให้กับราก ใบ ผล ของพืชให้ได้รับแคลเซียมได้มากขึ้้น ทำให้เซลล์พืชทำงานอย่างมีประสิทธิภาพลดความเครียด ให้กับพืช มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทำให้แตกรากและดูดชึมสารอาหารได้ดี ระบบรากฟื้นตัวเร็ว อุดมไปด้วย สารอาหาร ทั้ง 17 ชนิด และเป็นตัวช่วยเปิดปากใบ  ส่งผลทำให้แตกยอด ใบ ดอก เพิ่มการผสมเกสร ทำให้การติดผลได้มากขึ้น มีขนาด น้ำหนัก ดี พืชทน ต่อสภาวะ อากาศที่แปรปรวน และป้องกัน ต้นพืชโทรมหลังการเก็บเกี่ยว ใช้ได้กับพืชทุกชนิด

👉🏻 สนใจติดต่อสอบถามและสั่งซื้อได้ที่ สองแสงจันทร์ ปุ๋ย ยา ราคาส่ง

บทความอื่นๆ

Similar Posts